L
A D I N G



Personal Data Protection Act (PDPA)
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ประกาศ HR ที่ 042 / 2565

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำหรับผู้สมัครงาน นักศึกษาฝึกงาน และบุคคลอื่นที่ผู้สมัครฝึกงาน หรือนักศึกษาฝึกงานได้ให้ข้อมูลไว้

        บริษัท  เฉลิมชัยชาญ  จำกัด  (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน และบุคคลอื่นที่ผู้สมัครฝึกงาน หรือนักศึกษาฝึกงานได้ให้ข้อมูลไว้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าบริษัทจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อ

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้กำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อบริษัท ดังต่อไปนี้ 


1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม  ใช้  หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


1.1 การสมัครฝึกงาน

(1) เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครฝึกงาน ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนสมัครผ่านช่องทางไปรษณีย์ การสมัครฝึกงานผ่านทางบริษัทโดยตรง การพิจารณารับนักศึกษาฝึกงานตามรายชื่อที่ได้รับจากมหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือสถานศึกษา ขั้นตอนการสัมภาษณ์ ขั้นตอนการประเมินคัดเลือก และกระบวนการบริหารงานบุคคลอื่น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาและคัดเลือกเข้าฝึกงานกับบริษัท


1.2 เมื่อได้รับคัดเลือกเป็นนักศึกษาฝึกงาน
(1) เพื่อการดำเนินการตามสัญญาระหว่างที่ท่านเข้าฝึกงานกับบริษัท เช่น การจ่ายค่าตอบแทน (ถ้ามี) การลงเวลาเข้า-ออกฝึกงาน การศึกษาดูงาน การอนุญาตเข้าระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลที่จำเป็นต่อการฝึกงาน รวมถึงการทำสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
(2) เพื่อการประเมินผลการฝึกงานของท่าน เช่น การประเมินผลทักษะการเรียนรู้ การประเมินผลทักษะการปฏิบัติงานรายวิชา การให้ข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นต่อนักศึกษาฝึกงานรายบุคคล ตามแบบฟอร์มที่วิทยาลัยกำหนด
(3) เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลและใช้ยืนยันประวัติการฝึกงานของท่าน
(4) เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร
(5) เพื่อการติดต่อประสานงานต่าง ๆ ระหว่างการฝึกงาน

(6) เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ


1.3 ในบางกรณีบริษัทอาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นอ้างอิง ซึ่งผู้สมัครฝึกงาน และหรือนักศึกษาฝึกงานของบริษัทได้ให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้ บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของบุคคลเหล่านั้น โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อการติดต่อสื่อสารในกรณีจำเป็น หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น แจ้งเหตุอันตรายที่เกิดแก่ผู้สมัครฝึกงาน และหรือนักศึกษาฝึกงานให้ทราบ เป็นต้น
บริษัท ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน และบุคคลอื่นที่ผู้สมัครฝึกงานหรือนักศึกษาฝึกงานได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัทนั้น บริษัทอาศัยฐานทางกฎหมายประการต่าง ๆ ตามที่แจ้งไว้นี้ โดยไม่ได้อาศัยความยินยอม แต่อย่างไรก็ตามอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีที่บริษัทไม่

อาจใช้ฐานทางกฎหมายเหล่านี้ได้ เช่น กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

(Sensitive data) เป็นต้น ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน และในกรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครฝึกงาน หรือนักศึกษาฝึกงาน และได้ให้ข้อมูลของบุคคล

ในครอบครัวหรือบุคคลอื่นแก่บริษัทนั้น ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น) 


2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
        โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่บริษัท

กำหนดหรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ บริษัท แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่ บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น
        : บุคคลอื่นที่ท่านระบุในแบบฟอร์มสมัครฝึกงาน
        : มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของท่าน
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวมนั้น มีดังต่อไปนี้


2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครฝึกงาน
(2) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย

(3) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล บัญชีไลน์ (LINE ID)
(4) ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ประวัติการศึกษา ผลการศึกษา ผลการสอบวัดระดับภาษาต่าง ๆ ประวัติการฝึกอบรม ประวัติการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย
(5) ข้อมูลบุคคลอ้างอิง เช่น ผู้ควบคุมดูแลการฝึกงาน  ผู้แนะนำการฝึกงาน   บุคคลผู้ที่ติดต่อได้ในยามฉุกเฉิน
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่
(7) บัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน
(8) ลักษณะของผู้ฝึกงานและข้อมูลจากการฝึกงาน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือลักษณะอื่น ๆ รวมถึง การบันทึกเวลาเข้าออกงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน
(9) ประวัติการฝึกงานกับบริษัท


2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ในกรณีที่ท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท  ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัท ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เพื่อวัตถุประสงค์ใด บริษัท จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้   ความเชื่อในลัทธิศาสนา  ปรัชญา เชื้อชาติ สัญชาติ  ข้อมูลสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว ข้อมูลการแพ้ยา  ข้อมูลการแพ้อาหาร   เป็นต้น  ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เป็นต้น  เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับนักศึกษาฝึกงาน  รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลนักศึกษาฝึกงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน


3.การใช้คุกกี้
บริษัทมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ใน นโยบายการใช้คุกกี้   

 

4. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล 
บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้

ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง

ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กร

ของบริษัท


5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น


5.1 บริษัทเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและนิติบุคคลอื่น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เช่น มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของท่าน สถาบันหรือหน่วยงานที่ท่านสมัครงาน   การรักษาความปลอดภัย  ระบบสารสนเทศ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ ผู้สอบบัญชี  ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ หน่วยงานกำกับดูแล ได้ทั้งในและต่างประเทศตามความเหมาะสม และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถ

ดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้


5.2  บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ


6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ


6.1 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วน

บุคคลของท่าน แต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคง

ปลอดภัยที่เหมาะสม


6.2 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยว

ข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วน

บุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ


7. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

 

7.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทและบริษัทได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูล

ส่วนบุคคลจากการสูญหาย     การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต   การใช้งานในทางที่ผิด   การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง   และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยี

และขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้

ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล


7.2 บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความมันคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อ

ให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม


8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่ บริษัทกำหนดในข้อ  10. โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้      


8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่บริษัทขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดเวลา  เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วน

หรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อ การเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการประมวลผล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย


8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัท รวมถึงขอให้ บริษัท เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัท ได้


8.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับ บริษัท ได้ตามที่กฎหมายกำหนด


8.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

 

8.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัท อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัท จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้


8.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด


8.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัท แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด


8.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก บริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้


9. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
บริษัทอาจแก้ไขปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น บริษัทจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท  ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านบริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย


10. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้


    บริษัท เฉลิมชัยชาญ  จำกัด
    สถานที่ติดต่อ         :        536,536/1 ถนนเอกชัย แขวงคลองบางพราน  เขตบางบอน  กรุงเทพฯ 10150
    เบอร์โทรศัพท์        :        02-898-9050-69, 02-416-0155-9
    เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    สถานที่ติดต่อ         :        536,536/1 ถนนเอกชัย แขวงคลองบางพราน  เขตบางบอน  กรุงเทพฯ 10150

    เบอร์โทรศัพท์        :        02-898-9050-69, 02-416-0155-9
    อีเมล                       :        rockets@chalermchaichan.co.th